130 likes | 289 Views
N. S. P. MD SAYS “ คุณสมัคร ”. ตอบคำถามสัมมนา ดู L/C อย่างไรให้เป็นมวย. การใช้ประโยชน์จาก Google ในการขนส่ง. ค่าธรรมเนียม กลับมาใช้ 1 ก.พ. 53. วันหยุดต่อเนื่องของกรมศุลฯ. การขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ. คลังสินค้าทัณฑ์บนท่าเรือกรุงเทพ. ยุทธศาสตร์ใหม่หนุน SME ไทยโตยั่งยืน.
E N D
N S P MD SAYS “คุณสมัคร” ตอบคำถามสัมมนา ดู L/C อย่างไรให้เป็นมวย การใช้ประโยชน์จาก Google ในการขนส่ง ค่าธรรมเนียม กลับมาใช้ 1 ก.พ.53 วันหยุดต่อเนื่องของกรมศุลฯ การขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ คลังสินค้าทัณฑ์บนท่าเรือกรุงเทพ ยุทธศาสตร์ใหม่หนุน SME ไทยโตยั่งยืน กำลังซื้ออินเดียฟื้น
S คุณสมัคร ตอนผมยังเป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียน Assumption Commercial College – ACC ในปี พ.ศ. 2519 หน้าที่หนึ่งที่ผมได้รับมอบหมายจากท่านบราเดอร์เบอร์นาร์ดคือ การพิมพ์หน้าซองจดหมายและใส่จดหมายที่บราเดอร์เขียนถึงคุณสมัคร เพื่อส่งให้คุณสมัคร สุนทรเวช ศิษย์เก่า ACC รุ่นพี่ผมราว 20 ปี ผมได้ยินชื่อคุณสมัคร ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาโดยไม่มีรู้ว่าคุณสมัครมีความเก่งกล้าสามารถในด้านใด ความเข้าใจเพียงหนึ่งเดียวที่ผมได้รับ เป็นการถ่ายทอดจากบราเดอร์เบอร์นาร์ดที่มักใช้เสียงกระซิบบอกผมว่า “คุณสมัคร เป็นคนดี มีความสามารถ และจะมีชื่อเสียงโด่งดังในอนาคต” การที่บราเดอร์มักใช้เสียงกระซิบบอกกับผมและบอกกับผมคนเดียว ผมยืนยันว่าเป็นผมคนเดียว ผมคาดเดาว่า ขณะนั้นบราเดอร์คงรู้ว่าคุณสมัครมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบมากมาย บราเดอร์อาจถูกกล่าวหาว่า “ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง” ก็ได้ แต่จนถึงวันนี้ ผมและท่านผู้อ่านทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักกับบราเดอร์เบอร์นาร์ดคงยิ้มและสรุปได้ว่า บราเดอร์เป็นหมอดูแม่น ๆ ผู้หนึ่งเพราะคงไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้ว่าคุณสมัครมีชื่อเสียงโด่งดัง หลังจากที่ผมจบจาก ACC ออกมาทำงาน ผมก็เฝ้าติดตามผลงานของคุณสมัครนับแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้ผมได้เรียนรู้ความสามารถของคุณสมัครด้วยตัวผมเอง ผมมักไปฟังคุณสมัครปราศัยเท่าที่โอกาสอำนวย ผมชอบฟังแนวคิดแบบเซลส์แมนขายฝันของคุณสมัคร แบบว่าความเจริญก้าวหน้าบนโลกใบนี้ล้วนเริ่มมาจากจินตนาการความฝันทั้งสิ้น คุณสมัครเสนอโครงการทั้งการแก้ปัญหาการจราจรโดยถนนวงแหวน ทั้งแก้ปัญหาน้ำเสียในคลองแสนแสบโดยการทำเขื่อนด้านข้างหรือขุดอุโมงค์ใต้คลองเพื่อแยกน้ำเสียลำเลียงออกไปบำบัด และโครงการอื่น ๆ อีกมากมาย ปัจจุบันโครงการจำนวนหนึ่งก็ให้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี ดังนั้นเรื่องชื่อเสียง เรื่องความสามารถผมคงไม่นำมากล่าวซ้ำในที่นี้อีก N P ต่อหน้า 2
หน้า 2 แต่ประเด็นที่ผมขอนำมากล่าวในที่นี้คือ ภายหลังข่าวการเสียชีวิตของคุณสมัครแพร่กระจายออกไปในวันจันทร์ที่ 24 พฤษจิกายน 2552 เพียงไม่กี่ชั่วโมง ประชาชนทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่ชอบหรือฝ่ายที่ไม่ชอบ ต่างก็แสดงความรักความอาลัยอย่างชนิดที่เรียกได้ว่า คนที่จากไปน้อยคนจริง ๆ ที่จะได้รับเกียรติยศและศักดิ์ศรีเยี่ยงนี้ คุณสมัครมีตำแหน่งสุดท้ายเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย โดยตัดสินใจเลือกข้างไปอยู่พรรคเพื่อไทย ฝ่ายสีแดง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับสีเหลือง แต่เมื่อคุณสมัครเสียชีวิตลง ดูเหมือนว่าฝ่ายสีเหลืองเองก็ยังใช้ความเงียบเป็นสื่ออาลัยอย่างสงบ อย่างที่คนติดตามการเมืองทั่วไปก็ไม่คิดจะเป็นเช่นนั้น ผมเดาว่าในฝ่ายสีเหลืองเองน่าจะมีคนจำนวนมากที่เคยชื่นชอบคุณสมัครมาก่อนอย่างแน่นอน ผมชอบสมมุติ ผมจึงลองสมมุติว่า หากวันนี้ไม่มีสถาณการณ์การแตกแยกทางการเมืองอย่างรุนแรง คุณสมัครเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งพ้นตำแหน่งไปโดยไม่มีความขัดแย้งของสี และภายหลังไม่นานก็เสียชีวิตลง อะไรจะเกิดขึ้นตามมา ผมว่า ความรัก ความอาลัย และความยิ่งใหญ่ที่คุณสมัครได้รับจากประชาชนจะยิ่งใหญ่กว่านี้อีกหลายเท่า เพราะไม่มีการแบ่งสี ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย คนที่ต้องเงียบสงบเพราะอยู่ในสังกัดของสี ก็สามารถแสดงความรักความอาลัยออกมาได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงคิดว่า คุณสมัครน่าจะมีความยิ่งใหญ่อยู่ในตัวคุณสมัครเองตามคำทำนายของบราเดอร์เบอร์นาร์ดที่กระซิบแก่ผมทั้งที่เป็นเวลาผ่านมาถึง 33 ปีแล้ว เพื่อนของผมที่อยู่เชียงใหม่บอกกับผมว่า “มันเหมือนผิดเวลา” เมื่อผมถามความหมาย ผมก็ได้คำตอบกลับมาว่า ความสามารถของคุณสมัครยิ่งใหญ่จริง แต่การก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความขัดแย้งทางการเมืองจึงเป็นการผิดเวลา หากเป็นการถูกเวลาที่ไม่มีความขัดแย้ง การเสียชีวิตของคุณสมัครจะยิ่งใหญ่กว่านี้อีกหลายเท่า ผมนอกจากจะไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ กับเพื่อนชาวเหนือของผมแล้ว ผมกลับเห็นด้วยทุกประการ วันนี้บราเดอร์เบอร์นาร์ดได้เสียชีวิตไปก่อนหน้าหลายปีแล้ว คุณสมัครกำลังเดินทางไปพบบราเดอร์ในสวรรค์ ผมจึงได้แต่ภาวนาให้ท่านทั้งสองมีความสุขสงบในสรวงสวรรค์ มีโอกาสพบปะอย่างคนชอบพอกัน ได้สนทนาต่อกัน แทนการส่งจดหมายถึงกัน โดยที่บราเดอร์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เสียงกระซิบผ่านผมให้เสียวเล่นแต่ประการใด ผมขอร่วมไว้อาลัยคุณสมัคร ด้วยใจครับ. S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก สิทธิชัย ชวรางกูร
“ดู L/C อย่างไรให้เป็นมวย” ถาม: ถ้าซื้อขายเป็น Ex work ผู้ส่งออกมีสิทธิ์ขอชดเชยอากรได้หรือเปล่า ? เนื่องจากเท่าที่ทราบมา ชดเชยอากรนั้น ศุลกากรจะคิดจาก FOB ` เท่านั้น ตอบ: โดยทางทฤษฎีแล้วเป็นการขัดแย้งที่จะไปสื่อถึงการใช้สิทธิ์ชดเชยลำบาก แต่ในทางปฎิบัติตอนที่ส่งออกใบขนสินค้าส่งออกจะถูกบังคับให้สำแดง FOB อยู่แล้ว ถาม:ในการณี Transferable L/C ทาง Supplier Present เอกสารถูกต้องทั้งหมด แต่ Middle man Present เอกสารไม่ทัน ทำให้ไม่สามารถรับเงินไว้ได้ ในกรณีนี้ Supplier จะสามารถเรียกร้องอะไรได้บ้าง ? ตอบ: ตาม UCP 600 Art ที่ 38 i กล่าวถึงเรื่อง Transferable Credit ในกรณีที่ Second Bene (Supplier) ทำเอกสารถูกต้องและ present เอกสารภายในระยะเวลาที่ L/C กำหนด (ภายใน period for presentation) แต่ First Bene (Middleman) ทำเอกสารไม่ถูกต้องและธนาคารได้แจ้งให้ First Bene แก้ไขเอกสารให้ถูกต้องแต่ First Bene ไม่แก้ไข หรือไม่สามารถ present เอกสารได้ทันตามที่ L/C กำหนด ธนาคารที่ทำหน้าที่เป็น Transferring Bank (ประกบเอกสารของ Suppier กับ Middleman) มีสิทธิส่งเอกสารที่ถูกต้องของ Second Bene ไปเรียกเก็บเงินที่ Issuing Bank ได้ ถาม: จากคำถามแสดงว่า Transferring Bank คงไม่ได้รักษาสิทธิ์ของ Second Bene ตาม UCP ที่กล่าวมาทำให้ไม่สามารถ present เอกสารทัน และIssuing Bank ได้ปฏิเสธการจ่ายเงินไปแล้ว กรณีนี้ Supplier ต้องไปไล่เบี้ยกับ First Bene กันเอง เนื่องจากภาระของ Issuing Bank สิ้นสุดหากเอกสารไม่ถูกต้องตาม L/C, UCP600 and ISBP ชื่อผู้เปิด L/C จากประเทศเยเมนมาให้ผู้ขายเมืองไทย เป็นเงิน USD 150,000 แต่ด้วยระยะเวลาที่ตกลงราคากันกับวันที่ได้รับ L/C ทำให้ไม่สามารถขายได้ ผู้ขายได้แจ้งลูกค้าให้ทราบ และ ปล่อยให้ L/C ฉบับนี้หมดอายุไปโดยปริยายถูกต้องใช่ไหม ? S N P ต่อหน้า 2
ตอบ: ในทางปฎิบัติไม่ควรให้หมดอายุแต่ควรทำเอาหลักการและเหตุผลไปอธิบายกับผู้เปิด L/C เพื่อต่ออายุ L/C โดยมีเสนอว่าจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการต่ออายุ L/Cเอง หรือมีส่วนลดให้ จะดีกว่าแต่อย่างไรก็ตามถ้าผู้เปิด L/C ยืนยันไม่ต่ออายุ L/Cให้ และเราไม่สามารถผลิตได้ทันก็ต้องปล่อยให้ L/C หมดอายุไปซึ่งเราเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ถาม: Reimbursement Terms – กรณีที่ได้เงิน USD ในวันเดียวกันจาก Bank เมืองนอก ( L/C Issuing Bank อยู่ที่ญี่ปุ่น) แสดงว่า Issuing Bank มีบัญชีเงินฝากอยู่กับ Negotiating Bank ในเมืองไทยใช่หรือไม่ ? ตอบ: ไม่จำเป็นเสมอไปขึ้นอยู่กับข้อตกลงแต่ BANK ที่มีพันธกรณีต่อกัน ถาม:ถ้าผู้ซื้อยืนยันว่าจะจ่ายเงินโดยไม่มีข้อโต้แย้งใน ( Discrepancy) ต่างๆ เรายังจำเป็นต้องแก้ไขอะไรหรือไม่ ( โดยเฉพาะสินค้ารับของไปแล้ว) ตอบ: ก็ไม่จำเป็นต้องไปแก้ไขอะไร เพียงแต่คำยืนยันของผู้ซื้อว่าไม่มีข้อโต้แย้ง และควรมีหลักฐานไว้ ด้วย S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
ในการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือ เป็นความต้องการของผู้ประกอบการที่จะต้องมีการคำนวนหาเส้นทางที่ถูกและเร็วที่สุด แต่การที่จะสามารถหาเส้นทางที่มีประสิทธิภาพเช่นนั้นได้ ซึ่งการจะแปลนเส้นทางของรถต้องใช้เวลาและความชำนาญ มีผู้ประกอบการหลายท่านที่ใช้บริการ shipping เพื่อลดการเสียเวลาและอำนวยความสะดวก แต่มันอาจจะสะดวกกว่า ถ้าเราสามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าเพื่อที่จะได้คุยกับ shipping ได้อย่างเข้าใจมากขึ้น ในวันนี้ ทางบริษัทฯ ขอเสนอบริการเล็กๆของGoogle ซึ่งปกติ จะถูกใช้ในการค้นหาข้อมูลอย่างเดียว แต่ Google Map(URL : http://maps.google.com/) สามารถดูข้อมูลจากแผนที่จำลองผ่านทางเว็บไซท์ และคำนวณเส้นทางจากต้นทางไปยังปลายทางได้เป็นกิโลเมตร และยังสามารถ คำนวณเวลาการเดินทางคร่าวๆได้ด้วย โดยตัวอย่างจากในภาพ เป็นการค้นหาเส้นทางจาก เขตบางกอกใหญ่ไปยังท่าเรือคลองเตย โดยเริ่มแรก ค้นหาด้วยคำว่าท่าเรือคลองเตย เมื่อได้สถานที่แล้วคลิกเลือกที่ Get Direction และพิมพ์สถานที่ต้นทาง จากตัวอย่างนี่เป็น บางกอกใหญ่และกด Go เว็บไซต์จะคำนวณระยะทาง จากต้นทางไปยังปลายทางตามเส้นสีน้ำเงิน ในด้านซ้ายจะแสดงระยะทางเป็นกิโลเมตร และมีการแสดงเวลาการเดินทางด้วย เหมาะสำหรับการคำนวณระยะทางและเวลาคร่าวๆที่สะดวกต่อผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้นครับ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
กำหนดค่าธรรมเนียมในการดำเนินพิธีการทางศุลกากร ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 36 และมาตรา 41 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฏหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป ให้กำหนดค่าธรรมเนียม ดังต่อไปนี้ 1. การผ่านพิธีการทางศุลกากรและการตรวจปล่อยสินค้าสำหรับใบขนสินค้า ฉบับละ 200 บาท 2. การผ่านพิธีการทางศุลกากร และการตรวจปล่อยสินค้าขาเข้าหรือขาออก สำหรับคำร้องขอรับของไปก่อนหรือส่งของออกไปก่อน ฉบับละ 200 บาท 3. การบันทึกข้อมูลใบขนสินค้า ใบกำกับการขนย้ายสินค้า และคำร้องขอรับของไปก่อน หรือส่งของออกไปก่อนเข้าสู่ระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์โดยเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรฉบับละ 70 บาท ให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามข้อ 2 สำหรับกรณีดังต่อไปนี้ 1. กรณีผู้นำของเข้าหรือส่งของออกเป็นส่วนราชการ 2. ใบขนสินค้าที่ได้รับสิทธิยกเว้นอากรตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ภาค 4 3. ใบขนสินค้าขาเข้า หรือ ขาออกพิเศษที่มีราคาของไม่เกิน 20,000 บาท 4. ใบขนสินค้าขาออกที่มีราคาของไม่เกิน 50,000 บาท และทำการส่งออกในเขตพื้นที่รับผิดชอบของด่านศุลกากร 5. ใบขนสินค้าผ่านแดน ให้ไว้ ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
วันหยุดต่อเนื่องของกรมศุลฯวันหยุดต่อเนื่องของกรมศุลฯ S เนื่องด้วยในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันหยุดราชการประจำปี แต่เนื่องจากในปีนี้ วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2552 ตรงกับวันเสาร์ และ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ถือเป็นหลักการว่า กรณีวันหยุดราชการประจำปีวันใดตรงกับวันหยุดราชการประจำสัปดาห์ ให้เลื่อนวันหยุดราชการประจำปีวันนั้นไปหยุดในวันทำการถัดไป โดยให้หยุดชดเชยได้ไม่เกินหนึ่งวัน จึงมีประกาศให้ทราบ ว่า กรมศุลกากรจะปิดที่ทำการในวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2552 อีก 1 วัน และทางบริษัท SNP. จะปิดที่ทำการเช่นกัน แต่ทางบริษัทฯ ได้มีการจัดบุคคลากรเตรียมไว้เพื่อรองรับงานในวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม ไว้แล้ว ดังนั้นผู้ประกอบการที่มีงานกับทางบริษัทฯ สามารถสบายใจได้ว่า แม้จะเป็นวันหยุด งานก็จะไม่ล่าช้าเด็ดขาด N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
การขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ การคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร ( ฉบับที่ 9 ) พ.ศ. 2482 เป็นการคืนค่าภาระภาษีอากร สำหรับวัตถุดิบที่นำเข้า ได้แก่ อากรขาเข้า ค่าธรรมเนียมภาษีอื่น ภาษีสรรพสามิต ภาษีมหาดไทย ที่ผู้นำของเข้าได้เสียหรือวางประกันไว้ขณะนำเข้าเมื่อสามารถพิสูจน์ได้ว่าได้นำวัตถุดิบนั้นไปผลิตผสม ประกอบหรือบรรจุเป็นสินค้าส่งออก แล้วก็จะได้รับการคืนอากรโดยจะคำนวณค่าภาษีอากรที่คืนให้ตามสูตรการผลิต ทั้งนี้โดยมีเงื่อนไข ว่าจะต้องผลิตส่งออกภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้นำเข้า และต้องขอคืนเงินอากรภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ส่งของนั้นออกไป การขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ มีสาระสำคัญ หลักใหญ่ๆอยู่คือ 1. ต้องยื่นขออนุมัติหลักการก่อนการนำเข้า 2. นำเข้าภายใต้หลักการที่ขออนุมัติ และ ระบุใช้สิทธิขอคืนอากร ตามมาตรา 19 ทวิ ในใบขนสินค้าขาเข้า 3. ยื่นขอสูตรการผลิต ก่อนการส่งออก 4. ส่งออกภายใต้สูตรการผลิตโดยระบุเลขที่สูตรการผลิตและระบุขอใช้สิทธิขอคืนอากร ตามมาตรา19 ทวิ 5. หากมีการโอนสิทธิ ให้ผู้อื่นขอคืนด้วย หรือให้ผู้อื่นขอคืนอากรทั้งหมด หรือ ทั้งฉบับ ต้องยื่นตารางโอนสิทธิ์ตามแบบฟอร์ม กศก. 96/6 ก่อนการส่งออก และ ระบุเลขที่ตารางโอนสิทธิในใบขนสินค้าขาออกด้วย หากท่านทำตามขั้นตอนได้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ก็รวบรวมเอกสารตามข้อ 1 – 5 ยื่นเรื่องขอคืนอากร โดยจัดทำรายงานประกอบชุดคำขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ ที่ส่วนงานคืนอากร กรมศุลกากร แต่ถ้าผู้ประกอบการไม่ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ ท่านอาจเสียสิทธิในการขอคืนอากร หรือ อาจถูกปรับก่อนจึงจะได้คืนเงินอากร S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
คลังสินค้าทัณฑ์บนท่าเรือกรุงเทพคลังสินค้าทัณฑ์บนท่าเรือกรุงเทพ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทย กอปรกับนโยบายการค้าเสรี ทำให้การแข่งขันทางการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น การลดต้นทุนจากการขนส่งและการจัดเก็บจึงมีความจำเป็นที่จะช่วยให้ราคาของสินค้าถูกลง อันเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อของผู้บริโภค คลังสินค้าทัณฑ์บน ท่าเรือกรุงเทพเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดต้นทุน ให้กับผู้ประกอบการ และเพิ่มขีดคววามสามารถทางการแข่งขันให้แก่ผู้นำเข้า กล่าวคือ ผู้นำเข้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้คราวละจำนวนมากในราคาถูกและเก็บรักษาไว้ ณ คลังสินค้าทัณฑ์บน ท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าอากรขาเข้าที่ต้องชำระให้กับกรมศุลกากร โดยผู้นำเข้าไม่จำเป็นต้องชำระทั้งหมด แต่จะชำระเท่าจำนวนสินค้าที่ได้นำออกไปจากคลังสินค้าทัณฑ์บนในแต่ละครั้งเท่านั้น สินค้าส่วนที่เหลือยังสามารถฝากเก็บไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บนได้เป็นระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่นำสินค้าเข้าฝากเก็บ หมายเหตุ:กรมศุลกากรได้กำหนดสินค้า 4 ประเภทที่ห้ามมิให้เข้าฝากเก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บน ได้แก่ - ของยกเว้นอากรหรือไม่ต้องเสียอากร - ของที่ได้เสียอากรหรือวางเงินประกันแล้ว - ของต้องห้าม ต้องกำกัด - ของที่คลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไปแห่งนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้เก็บรักษา รายละเอียดคลังสินค้าทัณฑ์บน ท่าเรือกรุงเทพ คลังสินค้าทัณฑ์บน ท่าเรือกรุงเทพ เป็นคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป ปัจจุบันเปิดให้บริการ 2 คลัง ได้แก่ คลังสินค้าทัณฑ์บนเดิม หมายเลข 1 เป็นอาคาร 3 ชั้น มีพื้นที่ 6,434 ตารางเมตร ให้บริการฝากเก็บสินค้าทุกประเภทที่มีน้ำหนักไม่เกิน 1 ตัน/ตารางเมตร บริเวณชั้น 1 ของคลังมีห้องเก็บสินค้าควบคุมอุณหภูมิ เนื้อที่ 258 ตารางเมตร ซึ่งจะรักาษาอุณหภูมิไว้ที่ 20 องศาเซลเซียล และมีระบบการจัดวางสินค้าเป็นชั้น พร้อมเครื่องตรวจวัดระดับความชื้น เหมาะสำหรับการเก็บสินค้าประเภทไวน์ เปปไมครอน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และบุหรี่ เป็นต้น S N P ต่อหน้า 2
คลังสินค้าทัณฑ์บนใหม่ หมายเลข 2 เป็นอาคาร 2 คูหา มีพื้นที่ 3,120 ตารางเมตร และอยู่ในระหว่างการขยายพื้นที่อีก 4,500 ตารางเมตร ให้บริการฝากเก็บสินค้าทัณฑ์บนที่มีน้ำหนักมาก ตั้งแต่ 3 - 5 ตัน/ตารางเมตร อาทิ วัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิต ไม้แปรรูป เป็นต้น จุดเด่นของคลังสินค้าทัณฑ์บน ท่าเรือกรุงเทพ สะดวกกว่า... ด้วย ทำเลที่ดีที่สุด คลังสินค้าทัณฑ์บน ท่าเรือกรุงเทพ ตั้งอยู่ในท่าเรือและอยู่ใจกลางเมือง ทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนย้ายสินค้าออกจากท่าเรือไป จัดเก็บภายนอก นอกจากนี้ ระบบถนนที่เชื่อมโยงไปยังทุกภูมิภาคได้สะดวก ก็ทำให้การนำสินค้าออกจากคลัง สะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการกระจายสินค้าด้วย ปลอดภัยกว่า... เนื่อง จากที่ตั้งซึ่งอยู่ในท่าเรือไม่ต้องขนย้ายสินค้าหลายครั้ง ทำให้ลดความเสี่ยงในการขนย้ายสินค้าเข้าออกจากคลัง นอกจากนี้ ท่าเรือกรุงเทพยังมีเจ้าหน้าที่ตรวจสิ่งของภายในคลังทุกวัน รวมถึงมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจการณ์ภายในท่าเรือตลอดเวลา ทำให้ผู้นำเข้ามั่นใจได้ว่าสินค้าจะอยู่ในสภาพดี และปลอดภัยตลอดการเก็บรักษา ทันสมัยกว่า... นอกจากอุปกรณ์ทุ่นแรงที่ทันสมัยหลากหลายประเภท เหมาะกับทุกประเภทสินค้าแล้ว ยังมีระบบซอฟท์แวร์สำหรับตรวจสอบและรายงานปริมาณสินค้าคงเหลือในคลังทัณฑ์บน (Inventory Report) ผ่านทาง Website: www.port.co.th ช่วยลดขั้นตอนซ้ำซ้อนงานเอกสาร และช่วยผู้ประกอบการบริหารสินค้าคงคลัง และการจัดส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดกว่า... ในด้านการขนส่งสินค้าเข้าและออกจากคลัง เนื่องจากคลังสินค้าอยู่ในบริเวณท่าเรือ จึงสามารถช่วยประหยัดค่าขนส่งให้กับผู้ประกอบการได้ นอกจากนี้อัตราค่าฝากเก็บยังถูกกว่า ด้วยอัตราค่าฝากเก็บดังนี้ 10. สำหรับห้องควบคุมอุณหภูมิ คิดค่าภาระและค่าธรรมเนียมในอีตรา 18 บาท/ตัน/วัน S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
ยุทธศาสตร์ใหม่หนุน SME ไทยโตยั่งยืน ธุรกิจเอสเอ็มอีมีความสำคัญและเป็นรากฐานของเศรษฐกิจภายในประเทศ เนื่องจากเอสเอ็มอีคิดเป็นอัตราส่วน 95% ของผู้ประกอบการทั้งหมด หรือมีจำนวนผู้ประกอบการ กว่า 2.4 ล้านกิจการ ดังนั้นเศรษฐกิจของประเทศไทยจะดำเนินต่อไปอย่างไรในอนาคต กลไกที่จะมาช่วยขับเคลื่อนอีกตัวหนึ่งก็คือสถานการณ์ความอยู่รอดของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ดังนั้น สสว.ซึ่งเป็นหน่วยงานสนับสนุนเอสเอ็มอีที่สำคัญ จึงจะต้องเดินหน้าให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถยืนหยัดและพัฒนาสินค้าออกสู่ตลาดสากลอย่างยั่งยืนและมั่นคง ยุทธศาสตร์ใหม่ ภายใต้แนวคิด "MOVE" ประกอบด้วย M คือ Missing link ได้แก่ การสร้างเสริมเติมเต็มกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมเอสเอ็มอี เช่น สถาบันต่างๆภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อก่อให้เกิดการร่วมมือ เช่น การสร้างโครงการร่วมกัน เพื่อช่วยพัฒนาเอสเอ็มอีในสิ่งที่เอสเอ็มอีต้องการ ส่วน O คือ Onward ได้แก่ การเร่งรัดการดำเนินงาน นอกจากนี้ ต้องเร่งพัฒนาเอสเอ็มอีเข้าสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะตลาดอาเซียน และให้เอสเอ็ม-อีเข้ามามีส่วนร่วมกับอาเซียนเพิ่มขึ้น สำหรับ V คือ Value ได้แก่ การเพิ่มคุณค่าการดำเนินงานของ สสว.เพื่อให้ผู้ประกอบการไว้วางใจ เข้าร่วม และให้ความร่วมมือกับ สสว.โดยการสร้างการบริการให้เป็นที่ยอมรับ และ E คือ Efficiency ได้แก่ การดูแลการสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับวิสัยทัศน์ต่างๆ ปรับปรุงโครงสร้างการทำงานให้เหมาะสม มีความคล่องตัว มีธรรมาภิบาล และมีมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังจะมีการ แบ่งเอสเอ็มอีออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก 2.กลุ่มโอทอป 3.กลุ่มภาคการผลิต เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการให้ความช่วยเหลือ เพราะในแต่ละช่วงเวลา เอสเอ็มอีแต่ละกลุ่มย่อมต้องการความช่วยเหลือที่แตกต่างกัน และได้รับผลกระทบไม่เท่ากันทุกกลุ่ม อีกทั้งนโยบายในการดำเนินการช่วยเหลือต่างๆ ก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละกลุ่มอีกด้วย S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
กำลังซื้ออินเดียฟื้น จากการรายงานของสำนักข่าวเอพีเอฟเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าอัตราเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียประจำไตรมาส 3 (มิ.ย.-ก.ย.)ปีนี้ อยู่ในระดับเท่ากับปีละ 7.9% นับว่าดีเยี่ยมที่สุดในรอบ 18 เดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ซึ่งอยู่ที่ 6.5% โดยปัจจัยสำคัญมาจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ผล รวมทั้งได้แรงหนุนจากการที่อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์ด้วย ทางรัฐบาลอินเดียมีความคาดหมายว่าจะเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้นไปอีก ทั้งนี้การเติบโตในไตรมาสที่สามนี้ ได้แรงผลักดันจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตซึ่งโตขึ้นถึง 9.2 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่มีการใช้จ่ายด้านสังคมเพิ่มขึ้น 12.7 เปอร์เซ็นต์ อันสะท้อนให้เห็นถึงการที่รัฐบาลได้ทุ่มเทกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันผลกระทบจากวิกฤตการณ์โลก ยิ่งกว่านั้น อินเดียยังรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ดีกว่าอีกหลายชาติ เนื่องจากมุ่งเน้นเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลักอยู่แล้ว ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ในช่วงไตรมาสสอง อินเดียมีการเติบโตอยู่ที่ 6.1 % การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียนี้ทำให้อินเดียมีความสามารถในการติดต่อการค้ากับประเทศอื่นๆมากขึ้น แม้ว่าภาคอุตสาหกรรมจะเป็นภาคที่ผลักดันให้เศรษฐกิจอินเดียดีขึ้น แต่ทางด้านภาคเกษตรกรรมแล้ว อินเดียยังคงต้องพึ่งพาผลผลิตจากประเทศอื่นๆอยู่มาก ในขณะนี้ที่อินเดียมีกำลังซื้อจากต่างประเทศมากขึ้น ก็เป็นที่คาดการณ์ได้ว่าในระยะเวลาอันสั้นนี้ อินเดียจะมีความต้องการนำเข้าสินค้าภาคเกษตรกรรมและอาหารสำเร็จรูปจากประเทศภูมิภาคเอเชียแน่นอน และถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการในไทยจะหาช่องทางในการส่งสินค้าออกไปเปิดตลาดที่อินเดีย S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก