760 likes | 940 Views
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน. Matthew มัทธิว 7 How shall we judge ourselves and others who profess Christ as Savior?.
E N D
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridgeสวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
Matthew มัทธิว 7 How shall we judge ourselves and others who profess Christ as Savior?
1 “Judge not, that you be not judged. 1 “อย่ากล่าวโทษเขา เพื่อพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน
2 For with the judgment you pronounce you will be judged, and with the measure you use it will be measured to you.
2 เพราะว่าท่านทั้งหลายจะกล่าวโทษเขาอย่างไร พระเจ้าจะทรงกล่าวโทษท่านอย่างนั้น และท่านจะตวงให้เขาด้วยทะนานอันใด พระเจ้าจะได้ทรงตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น
3 Why do you see the speck that is in your brother's eye, but do not notice the log that is in your own eye? 3 เหตุไฉนท่านมองดูผงที่ในตาพี่น้องของท่าน แต่ไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน ท่านก็ไม่รู้สึก
4 Or how can you say to your brother, ‘Let me take the speck out of your eye,’ when there is the log in your own eye? 4 เหตุไฉนท่านจะกล่าวแก่พี่น้องว่า 'ให้ข้าพเจ้าเขี่ยผงออกจากตาของเธอ' แต่ที่จริงไม้ทั้งท่อนมีอยู่ในตาของท่านเอง
5 You hypocrite, first take the log out of your own eye, and then you will see clearly to take the speck out of your brother's eye. 5 ท่านคนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้
2 Samuel ซามูเอล12:1-10 1 And the LORD sent Nathan to David. He came to him and said to him, “There were two men in a certain city, the one rich and the other poor.
1 พระเจ้าทรงใช้ให้นาธันไปหาดาวิด นาธันก็ไปเข้าเฝ้าและกราบทูลพระองค์ว่า “ในเมืองหนึ่งมีชายสองคน คนหนึ่งมั่งมี อีกคนหนึ่งยากจน
2 The rich man had very many flocks and herds, 2 คนมั่งมีนั้นมีแพะแกะและโคเป็นอันมาก
3 but the poor man had nothing but one little ewe lamb, which he had bought. And he brought it up, and it grew up with him and with his children. It used to eat of his morsel and drink from his cup and lie in his arms, and it was like a daughter to him.
3 แต่คนจนนั้นไม่มีอะไรเลย เว้นแต่แกะตัวเมียตัวเดียวที่ซื้อเขามา ซึ่งเขาเลี้ยงไว้ และอยู่กับเขา มันได้เติบโตขึ้นพร้อมกับบุตรของเขา กินอาหารร่วมและดื่มน้ำถ้วยเดียวกับเขา นอนในอกของเขา และเป็นเหมือนบุตรสาวของเขา
4 Now there came a traveler to the rich man, and he was unwilling to take one of his own flock or herd to prepare for the guest who had come to him, but he took the poor man's lamb and prepared it for the man who had come to him.”
4 ฝ่ายคนมั่งมีคนนั้นมีแขกคนหนึ่งมาเยี่ยม เขาเสียดายที่จะเอาแพะแกะหรือโคของตน มาทำอาหารเลี้ยงคนที่มาเยี่ยมนั้น จึงเอาแกะตัวเมียของชายคนจนนั้นเตรียมเป็น อาหารให้แก่ชายที่มาเยี่ยมตน”
5 Then David's anger was greatly kindled against the man, and he said to Nathan, “As the LORD lives, the man who has done this deserves to die, 5 ดาวิดกริ้วชายคนนั้นมาก และรับสั่งแก่นาธันว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ผู้ชายที่กระทำเช่นนั้นจะต้องตาย
6 and he shall restore the lamb fourfold, because he did this thing, and because he had no pity.” 6 และจะต้องคืนแกะให้สี่เท่าเพราะเขาได้กระทำอย่างนี้ และเพราะว่าเขาไม่มีเมตตาจิต”
7 Nathan said to David, “You are the man! Thus says the LORD, the God of Israel, ‘I anointed you king over Israel, and I delivered you out of the hand of Saul.
7 นาธันจึงทูลดาวิดว่า “ฝ่าพระบาทนั่นแหละคือชายคนนั้น พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า 'ข้าพเจ้าได้เจิมตั้งเจ้าไว้ให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล และข้าพเจ้าช่วยกู้เจ้าออกมาจากมือของซาอูล
8 And I gave you your master's house and your master's wives into your arms and gave you the house of Israel and of Judah. And if this were too little, I would add to you as much more.
8 และข้าพเจ้าได้มอบวงศ์เจ้านายของเจ้าไว้ในมือของเจ้า และได้มอบภรรยาเจ้านายของเจ้าไว้ในอกของเจ้า และมอบวงศ์วานอิสราเอลและวงศ์วานยูดาห์ให้แก่เจ้า ถ้าเท่านี้ยังน้อยไป ข้าพเจ้าจะเพิ่มให้อีกเท่านี้
9 Why have you despised the word of the LORD, to do what is evil in his sight? You have struck down Uriah the Hittite with the sword and have taken his wife to be your wife and have killed him with the sword of the Ammonites.
9 ทำไมเจ้าดูหมิ่นพระวจนะของพระเจ้า กระทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระองค์ เจ้าได้ฆ่าอุรีอาห์คนฮิตไทต์เสียด้วยดาบ เอาภรรยาของเขามาเป็นภรรยาของตน และได้ฆ่าเขาเสียด้วยดาบของคนอัมโมน
10 Now therefore the sword shall never depart from your house, because you have despised Me and have taken the wife of Uriah the Hittite to be your wife.’ 10 เพราะฉะนั้นดาบนั้นจะไม่คลาดไปจากราชวงศ์ของ เจ้าเพราะเจ้าได้ดูหมิ่นข้าพเจ้า เอาภรรยาของอุรีอาห์คนฮิตไทต์มาเป็นภรรยาของเจ้า'
Romans โรม 2:1 1 Therefore you have no excuse, O man, every one of you who judges. For in passing judgment on another you condemn yourself, because you, the judge, practice the very same things.
1 เหตุฉะนั้น มนุษย์เอ๋ย ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร เมื่อท่านกล่าวโทษผู้อื่นนั้น ท่านไม่มีข้อแก้ตัวเลย เพราะเมื่อท่านกล่าวโทษผู้อื่น ท่านก็ได้กล่าวโทษตัวเองด้วย เพราะว่าท่านที่กล่าวโทษเขา ก็ยังประพฤติอยู่อย่างเดียวกับเขา
6 “Do not give dogs what is holy, and do not throw your pearls before pigs, lest they trample them underfoot and turn to attack you. 6 “อย่าให้ของประเสริฐแก่สุนัข อย่าโยนไข่มุกให้แก่สุกร เกลือกว่ามันจะเหยียบย่ำเสีย และจะหันกลับมากัดตัวท่านด้วย
7 “Ask, and it will be given to you; seek, and you will find; knock, and it will be opened to you. 7 “จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน
8 For everyone who asks receives, and the one who seeks finds, and to the one who knocks it will be opened. 8 เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้ ทุกคนที่แสวงหาก็พบ ทุกคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา
9 Or which one of you, if his son asks him for bread, will give him a stone? 9 ในพวกท่านมีใครบ้างที่จะเอาก้อนหินให้บุตร เมื่อเขาขอขนมปัง
10 Or if he asks for a fish, will give him a serpent? 10 หรือให้งูเมื่อบุตรขอปลา
11 If you then, who are evil, know how to give good gifts to your children, how much more will your Father who is in heaven give good things to those who ask Him!
11 เหตุฉะนั้น ถ้าท่านทั้งหลายเองผู้เป็นคนบาป ยังรู้จักให้ของดีแก่บุตรของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ จะประทานของดีแก่ผู้ที่ขอต่อพระองค์
Luke ลูกา11:13 13 If you then, who are evil, know how to give good gifts to your children, how much more will the heavenly Father give the Holy Spirit to those who ask Him!”
13 เพราะฉะนั้นถ้าท่านทั้งหลายเองผู้เป็นคนบาปยังรู้จักให้ของดีแก่บุตรของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์ จะทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่ผู้ที่ขอต่อพระองค์”
John ยอห์น14:14-17 14 If you ask Me anything in my name, I will do it. 14 สิ่งใดที่ท่านขอในนามของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกระทำสิ่งนั้น
15 “If you love Me, you will keep My commandments. 15 “ถ้าท่านทั้งหลายรักข้าพเจ้า ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของข้าพเจ้า
16 And I will ask the Father, and He will give you another Helper, to be with you forever, 16 ข้าพเจ้าจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป
17 even the Spirit of truth, whom the world cannot receive, because it neither sees Him nor knows Him. You know Him, for He dwells with you and will be in you.
17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน
Romans โรม 12:22 Do not be conformed to this world, but be transformed by the renewal of your mind, that by testing you may discern what is the will of God, what is good and acceptable and perfect.
2 อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม
John ยอห์น16:24 24 Until now you have asked nothing in my name. Ask, and you will receive, that your joy may be full. 24 แม้จนบัดนี้ท่านยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของข้าพเจ้า จงขอเถิดแล้วจะได้ เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ยม
Matthew 21:22 22 And whatever you ask in prayer, you will receive, if you have faith.” 22 สิ่งสารพัดซึ่งท่านอธิษฐานขอด้วยความเชื่อ ท่านจะได้”
Psalm เพลงสดุดี37:4 4 Delight yourself in the LORD, and He will give you the desires of your heart.4 จงปีติยินดีในพระเจ้า และพระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน
12 “So whatever you wish that others would do to you, do also to them, for this is the Law and the Prophets. 12 จงปฏิบัติต่อผู้อื่น อย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน นั่นคือธรรมบัญญัติ และคำสั่งสอนของบรรดาผู้เผยพระวจนะ
13 “Enter by the narrow gate. For the gate is wide and the way is easy that leads to destruction, and those who enter by it are many. 13 “จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่ และทางกว้างซึ่งนำไปถึงความพินาศ และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก
14 For the gate is narrow and the way is hard that leads to life, and those who find it are few. 14 เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ ผู้ที่หาพบก็มีน้อย
15 “Beware of false prophets, who come to you in sheep's clothing but inwardly are ravenous wolves. 15“ท่านทั้งหลายจงระวังผู้เผยพระวจนะเท็จ ที่มาหาท่านนุ่งห่มดุจแกะ แต่ภายในเขาร้ายกาจดุจหมาป่า
16 You will recognize them by their fruits. Are grapes gathered from thorn bushes, or figs from thistles? 16 ท่านจะรู้จักเขาได้ด้วยผลของเขา ผลองุ่นนั้นเก็บได้จากต้นไม้มีหนามหรือ หรือว่าผลมะเดื่อนั้นเก็บได้จากพืชหนาม