1 / 44

ความรู้และทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมี

ความรู้และทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมี. ผศ.ดร. สมภพ อินท สุวรรณ มหาวิทยาลัยทักษิณ. ปัญหาการศึกษาไทย. ต้องปฏิรูปครูและโรงเรียนให้ได้. ปัญหาด้านครู. 1.ขาดแคลนครู 2.ครูสอนไม่ตรงวุฒิ 3.ครูไม่มีวุฒิ 4. ปัญหาด้านครู. ผล 1.ขาดความมั่นใจในการสอน 3.ขาดแรงจูงใจหรืออุดมการณ์ในการสอน

Download Presentation

ความรู้และทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมี

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ความรู้และทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมีความรู้และทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมี ผศ.ดร. สมภพ อินทสุวรรณ มหาวิทยาลัยทักษิณ

  2. ปัญหาการศึกษาไทย • ต้องปฏิรูปครูและโรงเรียนให้ได้

  3. ปัญหาด้านครู • 1.ขาดแคลนครู • 2.ครูสอนไม่ตรงวุฒิ • 3.ครูไม่มีวุฒิ • 4. ..........

  4. ปัญหาด้านครู • ผล • 1.ขาดความมั่นใจในการสอน • 3.ขาดแรงจูงใจหรืออุดมการณ์ในการสอน • 3.นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ต่ำ • ครูต้องเก่งจึงจะสร้างศิษย์ที่เก่งได้

  5. ความรู้และทักษะที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพครูความรู้และทักษะที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพครู • 1.ต้องมีความรู้ด้านเนื้อหาวิทยาศาสตร์รวมทั้งธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี • 1)รู้ลึกและรู้กว้าง ต้องหมั่นศึกษา ติดตามตลอดเวลา • 2)รู้สาระสำคัญของเนื้อหาที่เหมาะกับระดับช่วงชั้นและมาตรฐานการเรียนรู้ • 3)รู้จริงคือถูกต้องโดยไม่มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

  6. แบบทดสอบความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนแบบทดสอบความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน • สาเหตุของความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน?

  7. ความรู้และทักษะที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพครูความรู้และทักษะที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพครู • 2.ต้องมีความรู้ด้านศาสตร์การสอนและศิลปะการสอน เช่น • 1)รู้ธรรมชาติและหลักการเรียนรู้(จิตวิทยา) • 2)รู้หลักการจัดการชั้นเรียน หลักการจัดการเรียนรู้ • 3)รู้หลักสูตรและกลวิธีการสอน

  8. ความรู้และทักษะที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพครูความรู้และทักษะที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพครู • 3.ต้องรู้บริบทของการจัดการศึกษา เช่น • 1)แผนการศึกษาชาติ นโยบาย พรบ.การศึกษา แนวทางการจัดการศึกษาในศตวรรษที่21 • 2)สภาพแวดล้อมของโรงเรียนและชุมชน

  9. ทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมีทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมี • 1.ทักษะในการจัดทำแผนการเรียนรู้ • เพื่อใช้เป็นแนวทางหรือเข็มทิศในการจัดการเรียนการสอนให้ตรงตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและกรอบเวลาที่กำหนด อาจเป็นแผนรายคาบ รายหัวข้อหรือแผนรายสาระ • นิยมเขียนแผนแบบย้อนกลับ(backward design)

  10. ทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมีทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมี • องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ • 1)มาตรฐาน ตัวชี้วัด • 2)แนวความคิดหลัก • 3)ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน(ถ้ามี) • 4)จุดประสงค์การเรียนรู้(ทั้ง3ด้าน K-P-A)

  11. แผนการจัดการเรียนรู้ • 5)สาระการเรียนรู้ • 6)หลักฐานหรือร่องรอยการเรียนรู้ • 7)การวัดและการประเมินผล • 8)การจัดกระบวนการเรียนรู้ • 9)สื่อ วัสดุ อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ • 10)กิจกรรมเสนอแนะ • 11)บันทึกผลหลังการสอน(ผล ปัญหา แนวทางแก้ไข)

  12. การจัดกระบวนการเรียนรู้การจัดกระบวนการเรียนรู้ • ในสาระวิทยาศาสตร์ให้ใช้วิธีการสืบเสาะหาความรู้(inquiry)ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้น (5E) • 1)ขั้นสร้างความสนใจ(engagement) • โดยการกระตุ้นด้วยคำถาม สถานการณ์ ภาพ หรือสื่อต่างๆให้นักเรียนสนใจและอยากเรียนรู้

  13. การสืบเสาะหาความรู้(ต่อ)การสืบเสาะหาความรู้(ต่อ) • 2)ขั้นสำรวจค้นหา(exploration) • ให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมสำรวจตรวจสอบ สังเกต ทดลอง รวบรวมข้อมูล • 3)ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป(explain) • ให้นักเรียนพิจารณาข้อมูลหลักฐานที่รวบรวมได้ ร่วมกันวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ แปลความหมาย ลงข้อสรุปและสร้างคำอธิบายที่สอดคล้องกับข้อมูล

  14. การสืบเสาะหาความรู้(ต่อ)การสืบเสาะหาความรู้(ต่อ) • 4)ขั้นขยายความรู้(elaboration) • ให้นักเรียนพิจารณาคำอธิบายของนักเรียนในขั้นที่3กับความรู้วิทยาศาสตร์หรือความรู้อื่นๆ ปรับปรุงคำอธิบายให้เป็นแนวความคิดหลักทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง

  15. การสืบเสาะหาความรู้(ต่อ)การสืบเสาะหาความรู้(ต่อ) • 5)ขั้นประเมินผล(evaluation) • ให้นักเรียนนำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์อื่น หรือยกตัวอย่างการใช้ความรู้ในชีวิตประจำวันหรือคำถามใหม่ที่สงสัยอยากรู้ต่อไป

  16. ทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมีทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมี • 3.มีทักษะในการตั้งคำถาม • ครูวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ต้องมีความสามารถในการตั้งคำถามที่กระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และพัฒนาความคิดระดับสูง คือ การคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์หรือสร้างสรรค์ • หรือเรียกว่าคำถามสร้างสรรค์(productive question) • ครูต้องฝึกการตั้งคำถามและอดทนอดกลั้นที่จะคอยคำตอบของนักเรียน ไม่รีบร้อนรวบรัดและกลายเป็นการถามเองตอบเอง

  17. Inquiry cycle

  18. ทักษะการถาม • ประเภทของคำถามสร้างสรรค์ • 1.ถามเพื่อกระตุ้นความสนใจ • เช่น สังเกตเห็นอะไร รู้สึกอย่างไร มีอะไรเกิดขึ้น • เพื่อชักจูงให้นักเรียนสังเกต สำรวจ ตรวจสอบและอยากเรียนรู้สิ่งใหม่

  19. ทักษะการถาม • 2.ถามเกี่ยวกับการวัดและการนับ • ให้นักเรียนตรวจสอบปริมาณ ฝึกทักษะการใช้เครื่องมือและความแม่นยำของการวัด

  20. ทักษะการถาม • 3.ถามให้เปรียบเทียบ • ให้นักเรียนสังเกต วิเคราะห์แยกแยะว่ามีอะไรที่เหมือนกันหรือต่างกัน ฝึกจัดระบบจำแนก จัดกลุ่มหรือออกแบบตารางบันทึกข้อมูล • 4.ถามให้ลงมือปฏิบัติ • โดยให้คาดคะเนหรือตั้งสมมติฐานว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้า.......

  21. ทักษะการถาม • 5.ถามให้ตั้งปัญหา • ให้นักเรียนหาวิธีการหรือออกแบบการทดลอง เลือกวิธีการแก้ปัญหา ตรวจสอบความเป็นไปได้ คาดคะเนคำตอบและลงมือแก้ปัญหาตามที่ได้วางแผนไว้

  22. ทักษะการถาม • 6.ถามให้อภิปรายหรือแสดงความคิดเห็น • โดยการถามด้วยคำถามว่า อย่างไร ทำไม

  23. ทักษะการถาม • หลักในการถาม • 1.ถามคำถามปลายเปิดหรือคำถามที่มีคำตอบหลายแนว • 2.ถามอย่างมีเป้าหมายและต้องชัดเจน ตรงประเด็น • 3.ไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือประเมินคำตอบหรือคำถามของนักเรียนเพื่อให้กล้าตอบ กล้าแสดงความคิดเห็น โต้แย้ง แสดงเหตุผล

  24. หลักการถาม • 4.สนใจคำตอบหรือคำถามของนักเรียน โต้ตอบอย่างมีชีวิตชีวาหรือชี้แนะแหล่งที่จะหาคำตอบ • 5.ส่งเสริมให้นักเรียนเรียนรู้(หาคำตอบ)ด้วยตัวเอง • 6.แสดงให้นักเรียนเห็นว่าคำถามหรือความคิดของนักเรียนมีคุณค่า นำไปใช้ประโยชน์ได้

  25. หลักการถาม • 7.ยกย่อง ชมเชยคำตอบหรือคำถามที่แปลกจากคนอื่นๆ • 8.ใจกว้าง ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง • 9.ใจเย็น คอยคำตอบจากนักเรียน • 10.ถามให้กระจาย

  26. ทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมีทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมี • 4.มีกลวิธีการสอนที่เน้นการเรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่มหรือเรียกว่าการเรียนแบบกลุ่มร่วมมือร่วมใจ(Cooperative learning) • โดยกลุ่มควรมีสมาชิก 4 คน • เหตุผล?

  27. กลวิธีการสอน • กลวิธีการสอนที่แนะนำให้ครูวิทยาศาสตร์นำไปทดลองใช้ ได้แก่ • 1)การจัดระบบความคิดโดยใช้แผนผัง • ที่นิยมกัน ได้แก่การเขียนแนวความคิดหลัก(Concept map) แผนผังความคิด(Mind map)หรือแผนผังเวนน์(Venn diagram)

  28. กลวิธีการสอน • ใช้สำหรับตรวจสอบความคิดหลักของนักเรียนก่อนเรียนหรือหลังเรียนว่าก่อนเรียนหรือหลังจากทำกิจกรรมต่างๆแล้ว นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง มีความเข้าใจถูกต้องหรือไม่ โดยให้เขียนแผนภาพแสดงความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันของความคิดหลัก(Concept)จากกว้างไปแคบ • เป็นการฝึกการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์และสร้างสรรค์

  29. กิจกรรมฝึกการใช้แผนผังเวนน์กิจกรรมฝึกการใช้แผนผังเวนน์ • 1.ฝึกเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของ2สิ่ง • ใช้ไดอะแกรม .... วง • 3.ฝึกเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของ3สิ่ง • ใช้ไดอะแกรม.....วง

  30. กลวิธีการสอน(ต่อ) • 2)การสอนแบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย(Predict Observe Explain = POE) • ใช้กระตุ้นให้นักเรียนสนใจ อยากรู้และตั้งใจทำการพิสูจน์ทดลอง โดยให้คาดคะเนผลไว้ก่อนโดยการวาดภาพหรือเขียนข้อความก่อนลงมือทำกิจกรรมเพื่อให้สังเกตอย่างละเอียดรอบคอบ • และนำผลจากการสังเกตมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่คาดคะเนหรือทำนายไว้ก่อน

  31. กิจกรรมฝึกกลวิธีสอนแบบPOEกิจกรรมฝึกกลวิธีสอนแบบPOE • 1.อุปกรณ์ • 1)ลูกอมชอกโกแลตMM 2 เม็ด สองสี • 2.จานแบน • 3.น้ำ • 4.สีไม้

  32. กิจกรรมฝึกกลวิธีสอนแบบPOEกิจกรรมฝึกกลวิธีสอนแบบPOE • วิธีการ • 1.คาดคะเนผลที่จะเกิดขึ้นเมื่อวางชอกโกแลตลงในจานที่ใส่น้ำ โดยวาดภาพและระบายสี • 2.ทำการทดลอง วางชอกโกแลตลงในจานที่ใส่น้ำ สังเกตผล • 3.วาดภาพปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในวงภาพที่สอง เปรียบเทียบผล • 4.อธิบายผล

  33. กิจกรรมฝึกกลวิธีสอนแบบPOEกิจกรรมฝึกกลวิธีสอนแบบPOE

  34. กิจกรรมฝึกกลวิธีสอนแบบPOEกิจกรรมฝึกกลวิธีสอนแบบPOE

  35. กลวิธีการสอน(ต่อ) • 3)การสอนแบบใช้ตั๋วออก(Exit ticket) • เป็นกลวิธีการสอนที่ให้นักเรียนทำก่อนออกจากห้องเรียน โดยให้สรุปสิ่งที่เข้าใจหรือที่ได้รับจากการเรียนรู้และสิ่งที่ยังสงสัยหรืออยากเรียนรู้ต่อ เพื่อให้ครูประเมินว่านักเรียนเข้าใจอะไร อย่างไร แค่ไหน ยังไม่เข้าใจอะไร มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างไร และควรจะสอนอะไรเพิ่มเติม

  36. ทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมีทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมี • 5.ต้องมีเทคนิคและศิลปะในการวัดและประเมินผล • ครูต้องให้ความสำคัญกับการวัดแลประเมินผลเพื่อดูพัฒนาการของนักเรียน(Formative)มากกว่าการวัดและประเมินเพื่อตัดสินผล(Summative)โดยประเมินผลสัมฤทธิ์ทั้งรายบุคคลและรายกลุ่มตลอดเวลาและให้ข้อมูลป้อนกลับแก่นักเรียนเพื่อให้เห็นพัฒนาการของตนเองโดยไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น

  37. ทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมีทักษะที่ครูวิทยาศาสตร์ต้องมี • และมีมาตรการจูงใจ ให้กำลังใจหรือซ่อมเสริมนักเรียนที่มีพัฒนาการน้อยหรือยังไม่ได้ตามเกณฑ์ • ครูต้องมีวิธีการและเครื่องมือที่หลากหลาย ได้มาตรฐาน มีเกณฑ์ประเมินที่ชัดเจน ตรงตามตัวชี้วัด และที่สำคัญคือต้องประเมินให้ครบถ้วนทุกด้าน ทั้งด้านความรู้ ทักษะ/กระบวนการและคุณลักษณะที่พึงประสงค์และเป็นไปตามสภาพที่แท้จริง

  38. กิจกรรมตั๋วออก • หลังจากที่ได้ฟังบรรยายเรื่องนี้จบลงแล้ว

  39. กิจกรรมอื่น • 1.ฝึกทำแผนการจัดการเรียนรู้รายคาบคนละ1แผน • 2.ฝึกกิจกรรมการเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์ ระดับประถม 2 กิจกรรม • 1)ชั้นประถมศึกษาปีที่1 เรื่อง การจำแนกพืชและสัตว์ • 2)ชั้นประถมศึกษาปีที่6 เรื่อง ระบบไหลเวียนเลือด • (ฝีกทำแบบจำลองหัวใจ)

  40. คำถาม?

More Related