1 / 44

การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support) สำหรับประชาชน

การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support) สำหรับประชาชน. โครงการหมออ่วมช่วยชีวิต กรมแพทย์ทหารบก. วัตถุประสงค์. ทราบนิยามของการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน เข้าใจการทำงานของระบบหายใจและระบบไหลเวียน ทราบความสำคัญของการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน

rona
Download Presentation

การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support) สำหรับประชาชน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน(Basic Life Support)สำหรับประชาชน โครงการหมออ่วมช่วยชีวิต กรมแพทย์ทหารบก

  2. วัตถุประสงค์ • ทราบนิยามของการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน • เข้าใจการทำงานของระบบหายใจและระบบไหลเวียน • ทราบความสำคัญของการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน • ทราบขั้นตอนการปฏิบัติ และสามารถปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานได้อย่างถูกต้อง • สามารถเข้าถึงระบบการบริการแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างถูกต้อง

  3. ร่างกายเรามีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?ร่างกายเรามีชีวิตอยู่ได้อย่างไร? • ออกซิเจนจากอากาศที่หายใจเข้าไป และอาหารที่กิน • เลือดจะเป็นตัวนำออกซิเจนและอาหารไปยังเซลต่างๆในร่างกาย โดยมีหัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ • ถ้าหัวใจหยุดทำงาน !!!! • เซลต่างๆจะหยุดทำงาน เซลที่ไวต่อการขาดออกซิเจนที่สุดคือ..... • สมอง • ดังนั้นผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้น หรือหยุดหายใจ จะหมดสติ ปลุกไม่ตื่น • เราจะช่วยเขาได้อย่างไร?

  4. Fact ขาดออกซิเจนแต่ยังไม่ตาย…แก้ไขได้..!!! Fact : สมองตายแล้วแก้ไขไม่ได้..!!!

  5. การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานคืออะไร?การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานคืออะไร? • การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน คือ การช่วยชีวิตในผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้น หรือหยุดหายใจ ประกอบด้วย • การประเมินว่าผู้ป่วยหมดสติ ปลุกไม่ตื่น • ให้การช่วยเหลือโดยการ • A: (Airway) เปิดทางเดินหายใจ • B: (Breathing) ประเมินการหายใจและช่วยหายใจ • C: (Circulation) ประเมินระบบไหลเวียนและกดหน้าอกนวดหัวใจ • ในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ต้องกระทำทันทีที่พบผู้ป่วย ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยน้อยที่สุด หรือไม่มีเลย

  6. ความจำเป็นของการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานความจำเป็นของการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน • ตั้งแต่หัวใจหยุดเต้น อัตราการรอดชีวิตจะลดลงร้อยละ ๗-๑๐ ทุกๆนาที่ที่ผ่านไป • การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานจะช่วยพยุงให้มีระบบไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงส่วนที่สำคัญในร่างกาย เพื่อรอความช่วยเหลือขั้นต่อไป • ถ้าการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อาจช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นคืนชีพได้

  7. Cardio-Pulmonary Arrest HEART LUNG STOP • โรคหัวใจ • ไฟฟ้าช็อต • จมน้ำ = ขาดอากาศ • โรคสมอง • แพ้ยา / แพ้แมลง • บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ • เจ็บป่วยอาการหนัก

  8. ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยรอดชีวิตปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยรอดชีวิต • ห่วงโซ่แห่งการรอดชีวิต ถ้าสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนทั้งหมดอย่าง ต่อเนื่องได้ภายในครึ่งชั่วโมง โอกาสรอดชีวิตจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๓๐ • ประกอบด้วย • การประเมินและขอความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว • การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานอย่างรวดเร็ว • การกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว • การช่วยชีวิตขั้นสูงอย่างรวดเร็ว

  9. การขอความช่วยเหลือในระบบบริการแพทย์ฉุกเฉินการขอความช่วยเหลือในระบบบริการแพทย์ฉุกเฉิน • หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน คือ๑๖๖๙ • เมื่อโทร.ขอความช่วยเหลือ ตั้งสติให้ดี เมื่อเจ้าหน้าที่รับสาย ให้แจ้งเหตุช้าๆและชัดเจน รอให้เจ้าหน้าที่สอบถามรายละเอียด • เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รายละเอียดแล้ว แจ้งว่าจะส่งรถพยาบาลมารับ รอให้เจ้าหน้าที่วางสายก่อน จึงค่อยวางสาย เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลครบถ้วน

  10. เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ ท่านควรทำอย่างไร? • ประเมินสถานการณ์ และความปลอดภัยในที่เกิดเหตุ • ประเมินการรู้สติของผู้ป่วยโดยการจับไหล่ เขย่าตัว เรียกปลุกดังๆ

  11. การจัดท่าที่เหมาะกับการช่วยชีวิตการจัดท่าที่เหมาะกับการช่วยชีวิต • จัดให้ผู้ป่วยนอนหงาย บนพื้นที่แข็งพอสมควร • ในผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ต้องระวังเรื่องการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังส่วนคอ ควรประคองศีรษะและคอให้ดี

  12. การประเมินและการเปิดทางเดินหายใจA: Airway • ในผู้ที่หมดสติ กล้ามเนื้อลิ้นจะอ่อนแรง ทำให้ลิ้นตกไปปิดทางเดินหายใจธีแก้ไข ทำได้โดยการดันหน้าผากให้ศีรษะเงยไปข้างหลัง เชยคางขึ้น ลิ้นที่ติดอยู่กับกระดูกกรามจะถูกยกขึ้น ทางเดินหายใจเปิดโล่ง

  13. A : Airway • กดหน้าผาก • เชยคาง

  14. การประเมินการหายใจและการช่วยหายใจB: Breathing • เมื่อเปิดทางเดินหายใจแล้ว ให้ประเมินว่าผู้ป่วยหายใจหรือไม่โดย การมองดูว่าหน้าอกขยับตามจังหวะการหายใจ, ฟังเสียงลมหายใจ, รับสัมผัสลมหายใจ • ใช้เวลาประเมินประมาณ ๕ วินาที เพื่อสังเกตว่าผู้ป่วยหายใจได้ปกติหรือไม่ • ถ้าผู้ป่วยหายใจได้ปกติ ให้จัดผู้ป่วยนอนท่าพักฟื้น เพื่อให้ทางเดินหายใจเปิดตลอดเวลา

  15. B-Breathing ประเมินอาการ Look ตาดู Listen หูฟัง Feel แก้มรับสัมผัส กรณีที่บาดเจ็บระวังคอหัก !!!

  16. การจัดท่าพักฟื้นRecovery Position

  17. การช่วยหายใจ ในกรณีผู้ป่วยหยุดหายใจ จโดยการเป่าปาก • หายใจเข้าปกติ เลื่อนนิ้วมือที่ดันหน้าผากมาบีบจมูกผู้ป่วยให้ปิดสนิท ประกบปากเข้ากับปากผู้ป่วยให้สนิท แล้วเป่าลมเข้าไป ใช้เวลา ๑-๒ วินาที คอยมองดูว่าถ้าหน้าอกผู้ป่วยขยายยกขึ้นตามลมหายใจที่เป่าเข้าไป ก็พอเพียงแล้ว • ถอนปากออก ปล่อยให้ลมหายใจออกตามปกติ แล้วประกบปากเป่าอีกครั้งหนึ่ง

  18. ถ้าเป่าครั้งแรก แล้วเป่าไม่เข้า • ให้จัดเปิดทางเดินหายใจใหม่ แล้วลองเป่าอีกครั้ง • ถ้ายังเป่าไม่เข้าแสดงว่าอาจมีสิ่งแปลกปลอมอุดทางเดินหายใจ ให้เปิดปากและจัดการนำสิ่งแปลกปลอมออกจากปาก • อย่าเป่าลมเข้ามากเกินไป อาจมีอันตรายต่อผู้ป่วยได้

  19. เป่าไม่เข้า? ดูในปาก-คออีกที ถ้าโล่งดีให้จัดท่าใหม่ ประกบปากให้สนิท BASIC LIFE SUPPORT B Breathing หน้าอกขยับขึ้น-ลง มีลมหายใจออก

  20. C Circulation ประเมินอาการหลังช่วยหายใจ • Breathing มีการหายใจ • Coughไอ,สำลัก • Movement ขยับตัว เคลื่อนไหว

  21. C Circulation ไม่หายใจ ไม่ขยับ ไม่มีอะไรเลย !!! Pump …

  22. ถ้าไม่มีชีพจร เริ่มกดหน้าอก นวดหัวใจ • กดที่ตำแหน่ง ครึ่งล่างของกระดูกหน้าอก • วัดหาตำแหน่งกด โดยใช้ระยะ ๒ นิ้วมือจากลิ้นปี่ วางมือต่อจากนิ้วที่วัด • ประกบมือซ้อนกัน กระดกปลายนิ้วขึ้น อย่าวางนิ้วมือแนบไปกับหน้าอก • เหยียดแขนตึง บีบศอกเข้าหากัน

  23. ท่าที่เหมาะสมในการกดหน้าอก นวดหัวใจ • ทิ้งน้ำหนักตัวผ่านแขนลงมาตรงๆ ตั้งฉากกับลำตัวผู้ป่วย ให้หน้าอกยุบตามต้องการ

  24. การกดหน้าอกที่ถูกต้องการกดหน้าอกที่ถูกต้อง กดแรงและเร็ว

  25. การกดหน้าอกที่ถูกต้องการกดหน้าอกที่ถูกต้อง ปล่อยให้หน้าอกกลับสู่ปกติ แล้วค่อยกดซ้ำอีกครั้ง

  26. การกดหน้าอกและการช่วยหายใจการกดหน้าอกและการช่วยหายใจ • กด ๓๐ ครั้ง • กดลึก ๑ ๑/๒ – ๒ นิ้ว หรือให้หน้าอกยุบลงประมาณ ๑/๒ – ๑/๓ ของขนาดรอบอก • กดในอัตราความเร็ว ๑๐๐ ครั้ง/นาที • อัตราส่วนการกดหน้าอก : การเป่าปาก = ๓๐ : ๒ นับเป็นหนึ่งรอบ • ประเมินซ้ำเมื่อครบ ๕ รอบ (ทุก ๒-๓ นาที) • ทำไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าผู้ป่วยจะรู้ตัวหรือได้รับความช่วยเหลือ

  27. กดอก 30 ครั้ง เป่าช้าๆ 2 ครั้ง อกขยับขึ้น เรียกคนมาช่วย เมื่อครบ 5 รอบ

  28. เป่าช้าๆ 2 ครั้ง/รอบ กด 30ครั้ง/รอบ 1-2-3-4-5-6 7-8-9-10 . . . 30 ครบ 5 รอบแล้ว ดูอาการผมอีกครั้ง

  29. สรุปขั้นตอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานสรุปขั้นตอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน • ประเมินความปลอดภัยในที่เกิดเหตุ • ประเมินการรู้สติของผู้ป่วยโดยการเขย่าตัว และเรียกปลุกดังๆ • ถ้าผู้ป่วยไม่รู้สติ เรียกขอความช่วยเหลือ • เปิดทางเดินหายใจ โดยการเงยศีรษะ-เชยคาง • ประเมินการหายใจ โดยการดู ฟัง รับสัมผัส • ถ้าผู้ป่วยหายใจ จัดผู้ป่วยนอนในท่าพักฟื้น • ถ้าผู้ป่วยไม่หายใจ ช่วยหายใจโดยการเป่าปาก ๒ ครั้ง • กดหน้าอกที่กลางหน้าอก เหนือลิ้นปี่ ๒ นิ้วมือ กดลึก ๑.๕-๒ นิ้ว กดทั้งหมด ๓๐ ครั้ง แล้วเป่า ๒ ครั้ง นับเป็น ๑ รอบ • ทำซ้ำทั้งหมด ๕ รอบ แล้วประเมินผู้ป่วยอีกครั้ง ถ้ายังไม่รู้สติให้ทำต่อไป จนกว่าจะได้รับความช่วยเหลือ

  30. การช่วยชีวิตโดยผู้ช่วยเหลือ ๒ คน • ได้ประสิทธิภาพมากกว่า, เหนื่อยน้อยกว่า • แบ่งหน้าที่ กดหน้าอกนวดหัวใจ และเป่าปากช่วยหายใจ • อัตราส่วนการกดหน้าอก : การเป่าปาก = ๓๐ : ๒

  31. การช่วยชีวิตโดยผู้ช่วยเหลือ ๒ คน

  32. การช่วยชีวิตโดยผู้ช่วยเหลือ ๒ คน • สลับเปลี่ยนหน้าที่กันได้ • ควรสลับเปลี่ยนหน้าที่กัน ทุก ๕ รอบ ( ๒-๓ นาที) • การสลับตำแหน่งควรทำให้เสร็จภายใน ๕ วินาที

  33. เด็กโต

  34. เด็กทารก

  35. ทางเดินหายใจถูกอุดกั้นจากการสำลักทางเดินหายใจถูกอุดกั้นจากการสำลัก สาเหตุ • อาหาร • ฟันปลอม • เมาสุรา อาเจียน • ของเล่น • อื่นๆ

  36. อาการ และการช่วยเหลือเมื่อสำลัก • ถ้าสำลัก ผู้ป่วยยังหายใจได้พอ จะพยายามไอ หรือ ขาก เอาสิ่งแปลกปลอมออกมาเอง ไม่ต้องให้ความช่วยเหลือ • ถ้าสำลักแล้วหายใจได้น้อย จะมีอาการหายใจเสียงดังหวีด หน้าเขียว กลุ่มนี้ต้องให้ความช่วยเหลือ • ถ้าสำลักแล้วหายใจไม่ได้ ผู้ป่วยจะมีอาการพูดไม่ได้ หน้าเขียว เอามือกุมคอ กลุ่มนี้ต้องให้ความช่วยเหลือ

  37. การช่วยเหลือเมื่อสำลักการช่วยเหลือเมื่อสำลัก • ถามยืนยันว่าผู้ป่วยสำลัก และบอกว่าจะทำการช่วยเหลือ • ยืนอยู่หลังผู้ป่วย สอดมือทั้งสองโอบรอบลำตัวผู้ป่วย กำมือข้างหนึ่งวางไว้ที่ตำแหน่ง กึ่งกลางระหว่างสะดือและลิ้นปี่ เอามืออีกข้างรองไว้ • ดึงรัดมือทั้งสองข้างเข้าหาตัว ในทิศทางเฉียงขึ้นจากช่องท้องไปช่องอก ๔-๕ ครั้ง • การรัด กระแทก จะทำให้เกิดแรงดันในช่องท้องและช่องอก ดันให้สิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่เลื่อน ออกมาจนผู้ป่วยสามารถสำรอกสิ่งแปลกปลอมนั้นออกมาได้

  38. การช่วยเหลือกรณีเด็กสำลักการช่วยเหลือกรณีเด็กสำลัก เด็กเล็ก (แรกเกิด-๑ ปี) เด็กโต (๑-๘ ปี)

  39. สรุป • ความหมายของการช่วยชีวิต • ความสำคัญของการช่วยชีวิต • การขอความช่วยเหลือจากระบบบริการแพทย์ฉุกเฉิน • ขั้นตอนการปฏิบัติการช่วยชีวิต • การช่วยเหลือกรณีผู้ป่วยสำลักสิ่งแปลกปลอม

  40. Take Home 1.Early Assess ประเมินให้ไว 2.Early CPR ภายใน 4 นาที 3.ABC จำแม่น A B C A-Airway ทางเดินหายใจคล่อง ส่องดูในปาก B-Breathing ช่วยหายใจไม่ยาก C-Circulation กดหน้าอก

  41. คำถาม ?

More Related